



วัดศรีคุณเมือง
วัดศรีคุณเมือง มีประวัติความเป็นมายาวนาน
น่าศึกษายิ่ง เป็นวัดเก่าแก่ร้างขึ้นพร้อมกับการตั้งบ้าน
ตั้งเมืองเชียงคานหลายชั่วคราวคนแล้ว และเป็น ที่พำนักของพระเถระผู้ใหญ่ในอดีต
ประชาชนจึงได้กล่าวขานว่า “วัดใหญ่” จากตำนานและหลักฐานหลายสิ่งหลายอย่างได้พบว่า
พระยาอนุพินาถและภรรยาพร้อมทั้งบุตรธิดาวงศาคณาญาติ มีท้าวพระยาแม่น เป็นต้น
ได้สร้างพระอุโบสถ กับพระพุทธรูปไว้เพื่อเป็นพระพุทธบูชาที่วัดศรีคุณเมือง เมื่อปี
พ.ศ. 2380 (จ.ศ. 1199)
วัดศรีคุณเมืองว่าจากเจ้าอาวาส การปกครองวัด ก็มีพระพรรษาอ่อน ๆ (น้อย) ไม่ค่อยจะมั่นคง เจ้าคณะตำบลเชียงคาน เขต 1 ได้ดูแลรักษาตามหน้าที่มาโดยลำดับ เมื่อ พ.ศ. 2527 พณ.ฯ ท่านพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ได้นำผ้ากฐินมาทอดแล้วมอบจตุปัจจัยถวายไว้วัดศรีคุณเมือง เพื่อปฏิสังขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดเป็นเงินทั้งสิ้น 350,000 บาท ทางเจ้าอาวาส ผู้รักษาการอยู่ในขณะนั้นจึงได้ชักชวนทายกทายิกาทำการ ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ โดยเปลี่ยนหลังคากระเบื้องซิเมนต์ออก เป็นกระเบื้องดินเผาเคลือบสีแทน สำเร็จเรียบร้อยเมื่อ พ.ศ. 2528 พลเอกสมคิด จงพยุหะ พร้อมด้วยอาจารย์น้อมฤดี ศรีภรรยาได้นำเงินจำนวน 14,500 บาท มาถวายวัดศรีคุณเมือง เพื่อเป็นทุนสำรองในการบูรณะวัดพร้อมทั้งชาวเชียงคานก็ได้บริจาคสมทบด้วยตามกำลังศรัทธา
ปี 2532 เกิดวาตภัยอย่างร้ายแรง ส่งผลให้หลังคาพระอุโบสถว่างเปล่า พายุหอบเอาดินกระเบื้องออกไปหมด ค่าเสียหายมากพอสมควร ต่อมาพระเณรภายในวัดศรีคุณเมืองตลอดทั้งญาติโยม ช่วยกันเก็บเอากระเบื้องดินเผาที่ยังไม่เสียหายพอจะมุงได้มามุงหลังคาอีกและไปสั่งกระเบื้องใหม่มาเพิ่มเติมอีกจนพอ ขณะนั้นมีพระบุญเลิศรักษาวัดเป็นเจ้าอาวาสชั่วคราว จ้างคนมุงหลังคาพระอุโบสถ แต่การปฏิบัติมุงหลังคาไม่ถูกต้องตามหลักการประกอบกับไม้ส่วนบนผุพังยุบหมดสภาพไปตามกาลเวลาหลังคาพระอุโบสถจึงการรั่วไหลในเวลาฝนตก ไม่เหมาะสม ที่จะประกอบสังฆกรรมของสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤดูฝน (ฝนตกมาก ๆ ) หากปล่อยไว้เนิ่นนานไป หลังคา ตลอดทั้งเพดานส่วนที่เป็นไม้ก็จะเสียหายมากขึ้น ทั้งจะเป็นความเสียหายต่อศาสนสมบัติที่เก็บรักษาไว้ในพระอุโบสถซึ่งบางชิ้นได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณวัตถุศิลปวัตถุของชาติ คือ
1. ธรรมาสน์ไม้สักแกะสลักลายประดับกระจกสี
2. พระพุทธรูปยืนชนิดไม้ทาน้ำทอง
3. พระพุทธรูปปางประธานอภัยชนิดไม้ทาน้ำทอง
4. ศิลาจารึกชนิดหิน
ทั้ง 4 อย่างนี้ เป็นโบราณวัตถุศิลปะล้านช้างที่มีอายุพุทธศตวรรษที่ 23 – 24 ทั้งหมดนี้เก็บรักษาไว้ที่พระอุโบสถวัดศรีคุณเมือง
วัดศรีคุณเมืองว่าจากเจ้าอาวาส การปกครองวัด ก็มีพระพรรษาอ่อน ๆ (น้อย) ไม่ค่อยจะมั่นคง เจ้าคณะตำบลเชียงคาน เขต 1 ได้ดูแลรักษาตามหน้าที่มาโดยลำดับ เมื่อ พ.ศ. 2527 พณ.ฯ ท่านพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ได้นำผ้ากฐินมาทอดแล้วมอบจตุปัจจัยถวายไว้วัดศรีคุณเมือง เพื่อปฏิสังขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดเป็นเงินทั้งสิ้น 350,000 บาท ทางเจ้าอาวาส ผู้รักษาการอยู่ในขณะนั้นจึงได้ชักชวนทายกทายิกาทำการ ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ โดยเปลี่ยนหลังคากระเบื้องซิเมนต์ออก เป็นกระเบื้องดินเผาเคลือบสีแทน สำเร็จเรียบร้อยเมื่อ พ.ศ. 2528 พลเอกสมคิด จงพยุหะ พร้อมด้วยอาจารย์น้อมฤดี ศรีภรรยาได้นำเงินจำนวน 14,500 บาท มาถวายวัดศรีคุณเมือง เพื่อเป็นทุนสำรองในการบูรณะวัดพร้อมทั้งชาวเชียงคานก็ได้บริจาคสมทบด้วยตามกำลังศรัทธา
ปี 2532 เกิดวาตภัยอย่างร้ายแรง ส่งผลให้หลังคาพระอุโบสถว่างเปล่า พายุหอบเอาดินกระเบื้องออกไปหมด ค่าเสียหายมากพอสมควร ต่อมาพระเณรภายในวัดศรีคุณเมืองตลอดทั้งญาติโยม ช่วยกันเก็บเอากระเบื้องดินเผาที่ยังไม่เสียหายพอจะมุงได้มามุงหลังคาอีกและไปสั่งกระเบื้องใหม่มาเพิ่มเติมอีกจนพอ ขณะนั้นมีพระบุญเลิศรักษาวัดเป็นเจ้าอาวาสชั่วคราว จ้างคนมุงหลังคาพระอุโบสถ แต่การปฏิบัติมุงหลังคาไม่ถูกต้องตามหลักการประกอบกับไม้ส่วนบนผุพังยุบหมดสภาพไปตามกาลเวลาหลังคาพระอุโบสถจึงการรั่วไหลในเวลาฝนตก ไม่เหมาะสม ที่จะประกอบสังฆกรรมของสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤดูฝน (ฝนตกมาก ๆ ) หากปล่อยไว้เนิ่นนานไป หลังคา ตลอดทั้งเพดานส่วนที่เป็นไม้ก็จะเสียหายมากขึ้น ทั้งจะเป็นความเสียหายต่อศาสนสมบัติที่เก็บรักษาไว้ในพระอุโบสถซึ่งบางชิ้นได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณวัตถุศิลปวัตถุของชาติ คือ
1. ธรรมาสน์ไม้สักแกะสลักลายประดับกระจกสี
2. พระพุทธรูปยืนชนิดไม้ทาน้ำทอง
3. พระพุทธรูปปางประธานอภัยชนิดไม้ทาน้ำทอง
4. ศิลาจารึกชนิดหิน
ทั้ง 4 อย่างนี้ เป็นโบราณวัตถุศิลปะล้านช้างที่มีอายุพุทธศตวรรษที่ 23 – 24 ทั้งหมดนี้เก็บรักษาไว้ที่พระอุโบสถวัดศรีคุณเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น